วันพฤหัสบดีที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ตะลุย ปางอุ๋ง แม่ฮ่องสอน

หลังจากซิ่งที่ปายจนครบ 3 วัน 2 คืนหนำใจแล้ว เราก็ตัดสินใจไปตะลุยปางอุ๋งต่อ ทั้งๆ ที่ไม่เคยไป และไม่เคยรู้มาก่อนว่ามันไปยังไงวะ เหอๆ กางแผนที่ แล้วก็อาศัยถามคนที่ท่ารถไปเรื่อย - เรานั่งรถเมล์จากปายไปลงแม่ฮ่องสอน พอไปถึงท่ารถที่ตัวเมืองแม่ฮ่องสอน สิ่งแรกที่เราสองคนมองหาคือ "ร้านเช่ามอ'ไซค์" งานนี้ไปยังไงไม่รู้ แต่เช่ามอไซค์ไว้ก่อน กะว่าถ้าไม่ได้เรื่องยังไง ก็จะนอนที่แม่ฮ่องสอนซักคืนหนึ่ง [รอบนี้เวลาเหลือเฟือค่ะ ลามาทั้งอาทิตย์เลย หุหุ]

           เราเดินหาร้านเช่ามอไซค์ที่ไม่ไกลจาก บขส.นัก แล้วก็ถามเค้าว่า "พี่ๆ ถ้าพวกหนูจะไปปางอุ๋งนี่ ไปไกลมะ ขับมอไซค์ไปถึงป่าว" เค้าก็บอกว่า "อ๋อ ขับมอไซค์ไปได้เลยนี่ ไม่ไกล ไปตามเส้นทางเลย มีป้ายบอกตลอด บลาๆๆ" เอาล่ะเว้ย พี่บอกไม่ไกลใช่มะ นี่มันก็เที่ยงแล้ว ยังมีเวลาเหลือเฟือ  เลยกางแผนที่ แล้วกะดูเส้นทางท่องเที่ยวไปตลอดเส้นทาง กะว่ามีที่เที่ยวที่ไหน จะแวะให้ครบทุกจุดเลย หุหุ

           ระหว่างทาง เราก็แวะ น้ำตกแม่สุรินทร์ - เข้าไปทางปากทางถนนหลักแค่ 7 กิโล แต่สูงชันป่าต้นไม้ทึบใช้ได้ แต่ไปถึงปรากดว่าเจอแค่ที่ทำการอุทยาน [แวะไปปั๊มตรา แล้วก็กลับ] เพราะตัวน้ำตกนั้นต้องไปอีกกี่กิโลกว่า จำไม่ได้แต่ รู้แต่ว่าอีกไกล ( - -)'' [แล้วตรงทางเข้ามันจะบอกทำเพื่อ....? ว่า 7 กิโลเนี่ย]

             ถอยหลังกลับมาที่ถนนหลัก มุ่งหน้าปางอุ๋งกันต่อค่ะ ตอนแรกขับไปเรื่อยๆ ชิวๆ อากาศดี สบายๆ มาก แต่พอเริ่มแยกออกจากถนนใหญ่เนี่ย หูยยยยย พี่น้อง ทำไมมันวนวน ซับซ้อน ยอกย้อน ถนนมันสูงชันงี้วะ [เป็นอันตรายต่อการขับมอไซค์ที่ไม่ค่อยจะเซียนองเราเลย] แล้วไปกันสองคน สองคันนี่ ไม่ได้ช่วยไรเลยค่ะ ตัวใครตัวมัน พี่ลิงนี่ก็ซิ่งไม่ดูน้องเลยยย ซิ่งกันจนทิ้งห่างซักพัก หันหลังกลับมาดู เห้ยย มันไปล้มอยู่ตรงไหนป่าวว่ะ ทิ้งช่วงคอยกันอีกซักพัก ถึงได้พูดกันว่า "พี่ เราคิดถูกกันป่าววะเนี่ยย เมื่อไหร่จะถึง"

            ระหว่างทางก็จะมีที่เที่ยวหลายจุด เช่น น้ำตกผาเสื่อ บ่อโคลน และหมู่บ้านชาวเขามากมาย - แวะดูวิวเรื่อยๆ ถ่ายรูปเรื่อยๆ ไม่รีบ [เพราะคิดว่าคงไม่ไกลมาก] เราก็ไม่ได้สังเกตนะว่า "เออ ทำไมเงียบจังวะ ไม่ค่อยมีคนเลยวุ้ย ไม่มีนักท่องเที่ยวสวนไปสวนมาเลยว่ะ" จนแวะกินข้าว ชาวบ้านถามว่า "จะไปไหนกัน" พอตอบว่า "จะขึ้นไปปางอุ๋ง" ชาวบ้านแบบ "หูยยย อีกไกลนะ แล้วนี่ขี่มอไซค์มาเหรอ" หน้าเริ่มเสียแล้ว "ค่ะ มากันสองคน แล้วอีกไกลเลยเหรอคะ เห็นไม่ค่อยมีคนเลย" เค้าบอก "ช่วงนี้ไม่มีใครมาเที่ยวกันหรอก เค้าจะมาตอนกันหน้าหนาวนู่น" เอ่อ.............

          แต่ไหนๆ ก็มาแล้ว จองที่พักไว้หมดแล้ว ทำไงได้ เราต้องไปให้ถึง สู้เว้ยยย!! [แต่แอบหวั่นนะนั่น] - ขับมาประมาณ 4 ชั่วโมง[นับตั้งแต่ในตัวเมือง] - เฮ้ย เจอป้ายเข้าโครงการในพระราชดำรัสปางตอง 2 แล้ว อ๊ายย อีก 7 กิโลๆ - แต่พอเข้าไป จ๊ากกกกกกกก นี่เหรอ 7 กิโลที่ว่า ทางมันชันมากกกก แบบแหงนหน้าขึ้นมองแล้วซับเหงื่อซักรอบ ถึงจะทำใจขึ้นไปได้ ยิ่งขึ้นยิ่งสูง ก็ยังดั้นด้นไปอีก จนสุดเขตทางหลวง [คือสุดเส้นทางลาดยางแล้ว ต่อไปก็ตามยถากรรมละพี่น้อง] เอาล่ะเว้ย มองหน้ากันด้วยความมั่นใจ กะว่าคงอีกไม่ไกล แต่ก็ไม่ไกลจริงๆ ด้วย ทุลักทุเลไปแป๊บเดียว ก็ถึงหมู่บ้านแล้ว เย้!

           แต่.........."รีสอร์ทที่จองไว้นั่นน่ะ มันอยู่อีกหมู่บ้านนึง คือหมู่บ้านรักษ์ไทย ต้องออกไปถนนหลัก แล้วไปต่ออีก 7 กิโล" จ๊ากกกกกกกกก เฮ้ยๆๆ จริงเหรอ เอาไงวะ ให้ขับทางเมื่อกี้นี้ลงไปอีก 7 กิโล แล้วไปต่ออีก 7 กิโลเนี่ยนะ (O_o)
[นี่คือโทษของการหาข้อมูลไม่แน่นพอ ประกอบกับการเที่ยวแบบไม่วางแผนให้รอบครอบ ]
          หรือเราจะหาที่พักที่นี่อ่ะพี่ จุดหมายของเราคือปางอุ๋งนะ [ตอนนั้นยังไม่รู้ตัวว่า ที่มึงยืนอยู่นั่นน่ะ เข้าไปอีกคืบเดียวก็คือจุดหมายแล้ว] งั้นเอาไง ไปต่อมะ ..... ไปก็ไปวะ จองไว้แล้ว โทรไปยกเลิกก็ไม่ได้ - ณ ขณะนั้นเวลา 17.30 นาที จะค่ำแล้ว ยังหาที่พักไม่เจออีก

               เราจอง "บ้านต้าเหล้าซือ รีสอร์ท" ไว้ค่ะ เผื่อใครเคยจะไป จะได้รู้ว่ามันอยู่คนละหมู่บ้านกับปางอุ๋งนะ ( - -)'' แต่พอไปถึงที่พัก [โชคดีหน่อยที่พักหาง่าย พอขับเข้าหมู่บ้านก็เจอเลย] ก็โอเคเลยค่ะ บรรยากาศดีเลย เงียบดี ไม่มีนักท่องเที่ยวเลยแม้แต่ซักคน เหอๆๆ เลือกนอนที่ไหน หลังไหนก็ได้ตามสบาย เหอๆ - หมู่บ้านรักษ์ไทยนี้จะเป็นหมู่บ้านชาวจีนภูเขาค่ะ ก่อนจะมืด ก็ได้ชมวิวอีกซักเล็กน้อยย งดงาม มีแองน้ำกว้างๆ กลางหมู่บ้าน สวยเลยค่ะ ^^

               พอตกกลางคืน อาบน้ำไรเสร็จ อากาศเริ่มเย็นๆ [แต่น้ำเย็นมากกก] มันคงเย็นตลอดปี นั่งมองดาว มองหน้ากัน แล้วคิดขึ้นมาว่า "เอ่อ พี่ พรุ่งนี้เราจะลงไปยังไงอ่ะ กลัว" ณ ตอนนั้นกลัวจริงๆ ค่ะ คือขึ้นมาถึงนี่ได้นี่ก็มาแบบขาสั้นๆ อ่ะ คิดถึงตอนลงแล้ว สั่นกว่าเดิมอีก  ช่างมัน นอนก่อน ตอนเช้าค่อยว่ากัน เอาไงเอาตามกันเว้ย ~

              ตื่นเช้ามาก็กะว่าจะลงกลับกรุงเทพฯกันวันนี้เลย คิดว่าคืนเดียวคงพอแล้ว [เรื่องหลับสบายมั้ยนั่น อย่าถาม ไม่มีใครสนใครกันแล้ว หลับเป็นตาย เหอๆ] แต่เรายังติดที่ว่า "ยังไม่ถึงปางอุ๋งเลยอ่ะ ยังไม่เห็นไอ้ศาลาๆ ที่เค้าชอบไปถ่ายรูปกันเลยนะ" , "แล้วเอ็งจะลองเข้าไปอีกมั้ยอ่ะ 7 กิโลนั้นอ่ะ" , "ไหนๆ ก็มาแล้ว อีกซักรอบมั้ยพี่" , "เออ เอาไงเอากัน" [ใจง่ายกันมาก อีสองคนนี้ ไม่มีใครคอยขัดกันเล้ยยย] สรุปเราออกจากรีสอร์ทตั้งแต่ 9 โมงเช้า ย้อนกลับมาทางเดิม แล้วตัดสินใจ ขับมอไซค์ขึ้นลงเขา [ที่เราผ่านกันมาแล้วเมื่อวาน] ไปอีกรอบ

                และแล้วเราก็มาจอดที่เดิม ที่เรายืนงงกันเมื่อวาน แต่รอบนี้ไม่ได้ถามใคร ตัดสินใจเลี้ยวเข้าไปในโครงการ เลี้ยวขวับเดียว เจอเลย - "เฮ้ย นี่ไง ปางอุ๋ง ที่เค้าชอบมาถ่ายรูปกันอ่ะ มันอยู่แค่นี้ แล้วทำไมเมื่อวานเราไม่เลี้ยวเข้ามาวะ นิดเดียวเอง" [คือนิดเดียวจริงๆ แค่โค้งกั้น ( - -)''] ทำไรไม่ได้แล้วก็ขำกัน ฮาๆๆๆๆ ๕๕๕๕

                ปางอุ๋ง ณ ตอนหน้าฝนนี่ เงียบมากก น้ำสงบนิ่ง ทุกอย่างเป็นสีเขียว หน้าสีเหลือง ไม่มีผู้คน ไม่มีนักท่องเที่ยว เหมือนทุกอย่างหยุดนิ่ง [แต่มีอิสองคนนี้ที่วิ่งไปวิ่งมา วนไปวนมา เหอๆ] เจอ จนท. ถามอีกแล้วว่า "มาติดต่ออะไรครับ" กรำ กรูมาเที่ยวนะเฟร้ยยย เค้าคงแบบแปลกว่า นี่มันมาเที่ยวกันช่วงนี้เหรอ แล้วมากันสองคนนี่นะ หึหึ

เหมือนเดิมค่ะ ใช้สิทธิ์ที่มากันตอนไม่มีใคร แล้วมากันน้อยๆ นี่แหละ ตระเวณทั่วไปหมด สนุกดี ^^

             ตอนกลับลงมา เพิ่งโทรไปจองตั๋วรถกลับกรุงเทพฯ ณ ตอน 11 โมง ตอนขาลงมานี่ไวมาก จำได้ว่าขาขึ้นไปนี่ประมาณ 5 ชั่วโมง แต่ตอนกลับลงมานี่ 2 ชั่วโมงกว่าๆ เอง - โทรไปจองตั๋วรถ เหลือ 2 ที่พอดี โชคดีสุดๆ แต่เค้าให้ไปรับตั๋วก่อนเที่ยง [11.30 มันยังอยู่ในป่าอยู่เล้ยย] แต่ก็ไปทันค่ะ มีเวลากินข้าว เดินเล่นในตัวเมืองแม่ฮ่องสอนได้อีกซักพัก เดินจนหลง ยังโบกรถตำรวจไปส่งที่บริษัทรถทัวร์ได้อีก ๕๕๕๕

             นี่เป็นอีกครั้งหนึ่งที่เราไปเที่ยวโดยไม่ได้วางแผนอะไรล่วงหน้าเลย - เหมือนอารมณ์เวลาเราเห็นใครไปเที่ยวที่ไหน แล้วถ่ายรูปสวยๆ มาอวด มาโพสต์กันนี่ เราก็จะอยากเจริญรอยตามใช่มั้ยคะ อยากไปบ้าง อยากถ่ายได้แบบนั้นบ้าง - แบบนั้นแหละค่ะ พอมีเวลาว่าง เราเลยต้องหาเวลาออกไปไหนทุกที ถ้าไม่มีเวลาคิด ก็ไปตามรูปที่เราห็นละกัน - เหมือนที่ไปปางอุ๋ง เพื่อไปเจอไอ่กระท่อมนั่นแหละ ( - -)'' แต่ทำไมถ่ายออกมาไม่งามเหมือนชาวบ้านฟร่ะ - ไม่ว่ามันจะออกมาแบบราบรื่น มีอุปสรรคแค่ไหน แต่สุดท้ายมันกลับเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ และภาคภูมิใจครั้งนึง ๕๕๕๕

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น